พญาอนันตนาคราช จอมนาคเทวาผู้ยิ่งใหญ่ เทพบัลลังก์แห่งพระวิษณุนารายณ์ - Nagahora

Post Top Ad

Responsive Ads Here

วันศุกร์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2561

พญาอนันตนาคราช จอมนาคเทวาผู้ยิ่งใหญ่ เทพบัลลังก์แห่งพระวิษณุนารายณ์

"พญานาค" เป็นเทพเดรัจฉานที่อยู่คู่กับความเชื่อของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู และศาสนาพุทธมาช้านั้น ซึ่งในตำนานนั้นระบุว่า พญานาคเป็นงูใหญ่ บนหัวมีหงอน ที่คางมีเครา ลำตัวมีเกล็ด และปลายหางมีลวดลายงดงามมาก ทั้งมีอิทธิฤทธิ์สามารถแปลงกายได้ และยังมีฤทธานุภาพสามารถบันดาลให้เกิดปาฏิหาริย์ต่างๆได้อีกด้วย

พญานาคนั้นกำเนิดมาจากพระเทพฤาษีมหากัสยปะเทพบิดร กับพระนางกัทรุพระชายาคนรอง ซึ่งในขณะที่คลอดนั้น พระนางได้คลอดลูกเป็นไข่ 1000 ฟอง ตามคำอธิษฐาน และลูกตนแรกของพระนางที่ฟักออกมานั่นก็คือ พญาอนันตนาคราช จอมนาคาผู้ยิ่งใหญ่นั่นเอง

พญาอนันตนาคราช มหานาคะ มหานาคี เทวีนาคกัลยาณี มหานาคะ เทวา ชะยะ เตตี เตติ พาหนะคู่บารมีของพระนารายณ์นั้น เมื่อถือกำเนิดมาก็มีลักษณะอันแปลกประหลาด น่าพิศวง กล่าวคือ ทรงมีรัศมีกายเรืองรอง และมีลำตัวยาวไม่มีที่สิ้นสุด จนเป็นที่กล่าวขานว่าสามารถพันรอบโลกได้ มีจำนวนเศียรมากถึง 1000 เศียร และแต่ละเศียรไม่ได้พ่นพิษ แต่สามารถพ่นไฟบรรลัยกัลป์ ทำลายล้างโลกได้เลยทีเดียว เมื่อถือกำเนิดมา พระองค์ทรงได้พระนามว่า อนันตเศษ (อะนันตะเสสะ) หรืออนันตนาคราช เนื่องจากมาจากจำนวนพระเศียรที่มีจำนวนมาก และมีลำตัวที่ใหญ่และยาวไม่มีที่สิ้นสุดนั่นเอง

พญาอนันตนาคราชนั้น ถือเป็นต้นตระกูล และจอมแห่งนาคราช ตามความเชื่อของศาสนาฮินดู เนื่องจากทรงถือกำเนิดมาเป็นพระองค์แรกขอเหล่าพญานาคทั้งปวง ทรงมีฤทธิ์เดช และอานุภาพมาก ยากที่จะหาผู้เทียบเทียมได้

พญาอนันตนาคราชนั้น ทรงเป็นพญานาคที่ขึ้นชื่อในเรื่องรักความยุติธรรม โดยตามตำนานได้กล่าวไว้ว่า เมื่อครั้งที่ทรงทราบถึงเหตุการณ์ที่พระมารดาใช้กลโกงในการเอาชนะพระนางวินตา พระมารดาของพญาครุฑ โดยการแข่งกันทำนายสีขนของม้าทรงรถพระอาทิตย์นั้น นางวินตาทายว่าเป็นสีขาว ส่วนนางกัทรุทายว่าเป็นสีดำ นางวินตาก็ให้เหล่าพญานาคลูกของตนแปลงเป็นขนสีดำไปแซมที่ตัวม้า และพ่นพิษสีดำใส่หางม้า จนม้าสีขาวกลายเป็นสีดำ และนางกัทรุก็ชนะการแข่งขันในที่สุด ทำให้มารดาพญาครุฑต้องตกเป็นทาสเหล่าพญานาคถึง 500 ปี เมื่อพญาอนันตนาคราชทรงทราบ ก็ทรงผิดหวังในตัวพระมารดารวมถึงไม่พอใจและรังเกียจเหล่าน้องๆพญานาคมาก จึงได้หลบไปจำศีลอย่างโดดเดี่ยวเพียงพระองค์เดียว เมื่อพระพรหมทรงทราบเรื่อง จึงทรงให้พญาอนันตนาคราชลงไปขดตัวจำศีลภาวนาอยู่กลางเกษียรสมุทร เพื่อเป็นแท่นบรรทมแก่พระนารายณ์ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา ดังนั้นพญาครุฑจึงไม่สามารถจับพระองค์กินได้ เนื่องจากพระองค์ไม่ได้ต้องคำสาปในครั้งนั้นนั่นเอง

ด้วยฤทธานุภาพที่มีมากของพญาอนันตนาคราช จนทำให้บางครั้งพระองค์ก็ทรงอยากแสดงอิทธิปาฏิหาริย์ให้ประจักษ์แก่ทั้งสามโลก มีครั้งหนึ่ง พญาอนันตนาคราช ได้โผล่พระเศียรขึ้นไปบนสวรรค์ แต่ส่วนลำตัวอยู่บนโลกมนุษย์ และส่วนหางนั้นอยู่ใต้เกษียรสมุทร จากนั้นได้โอ้อวดกับเหล่าเทวดาว่า ในสามโลกนี้มีแต่ พระตรีมูรติเท่านั้น ที่มีอำนาจเหนือตน หากใครไม่เชื่อแล้วก็จงมาประลองกำลังกันเถิด เหล่าเทวดาต่างเกรงกลัวในอำนาจของพระองค์ มีแต่พระพายที่กล้าพอที่จะต่อกรได้ พระพายคิดว่า อย่างไรเสียนาคตัวนี้ก็เป็นแค่เดรัจฉาน การจำมาท้าตีท้าต่อยกับเทวดาจึงนับว่าโอหังนัก

ดังนั้นพระพายจึงรับคำท้า ว่าแล้วพญาอนันตนาคราชก็เอาตัวเองพันรอบภูเขาลูกหนึ่งไว้ บอกว่าให้พระพายลองทำลายภูเขานี้ดู พระพายนั้นจึงใช้กำลังสร้างพายุรุนแรงหมายจะพัดทำลายภูเขานั้นให้ยับเยิน แต่พญาอนันตนาคราช ก็ขยายตัวเองให้ใหญ่ขึ้น แล้วแผ่พังพานป้องไว้ได้ทุกครั้งไป จนสุดท้ายพระพายจึงทุ่มกำลังทั้งหมดเข้าโจมตีโดยดึงเอาลมในตัวสัตว์โลกทั้งมวลมาใช้ แต่ก็ถูกพญาอนันตนาคราชกลืนเข้าไปทั้งตัว

เมื่อพระพายถูกกลืนเข้าไปแล้ว สัตว์โลกทั้งหลายก็หายใจไม่ออก ร้อนถึงพระนารายณ์ต้องทรงมาบอกให้พญาอนันตนาคราชได้โปรดคายพระพายออกมาเสีย พญาอนันตนาคราชก็ทรงทำตาม ปรากฏว่าตอนที่คายพระพายมานั้น ก็บังเกิดเป็นลมรุนแรงพัดไปโดนภูเขาที่พันไว้จนราบเป็นหน้ากลอง ทั้งพระพายและพญาอนันตนาคราช ต่างก็นับถือในกำลังของกันและกัน เลยตกลงว่าการประลองครั้งนี้เป็นอันเสมอกัน

พญาอนันตนาคราชนั้น ถือว่าเป็นราชาแห่งพญานาค ผู้เป็นใหญ่ในนครบาดาลและเกษียรสมุทร และยังเชื่อว่าพระองค์ทรงเป็นอีกร่างหนึ่งของพระนารายณ์ ที่อวตารลงมาอุบัติเป็นพญานาคราชผู้มีหน้าที่คอยรองรับแผ่นดิน และเป็นผู้ที่จะพ่นไฟทำลายล้างโลก เมื่อถึงกาลสิ้นสุด ทั้งยังทรงเป็นเทพบัลลังก์ของพระนารายณ์และตามเสด็จพระนารายณ์ไปในที่ต่างๆอีกด้วย บางตำรากล่าวว่าพญาอนันตนาคราชนั้น ทรงมีกำลังเทียบเท่ากับพญาครุฑจิตสุบรรณ แต่พระองค์ชอบความสงบและการบำเพ็ญเพียรภาวนา จึงไม่เคยได้ประลองฤทธิ์กัน

พญาอนันตนาคราชนั้น ทรงมีพระชายาหลายพระองค์ แต่มีพระองค์หนึ่งที่ทรงรักยิ่ง นั่นคือพระนางอุษาอนันตวดีเทวีพระอัครมเหสีนั่นเอง พระนางอุษาอนันตวดีเทวี ทรงเป็นพระราชธิดาองค์ที่ 7 ในท้าววิรูปักษ์นาคราช และ พระนางนพเกตุนาคินีเทวี มีพระวรกายสีทองทั้งองค์ ทรงจุติเป็น เทวีนาคะธิดา เป็นภูมิเทพธิดา บนสวรรค์ชั้นจตุมหาราชิกา ส่วนพญาอนันตนาคราช ทรงจุติในนาคภูมิ กำเนิดจากไข่ฟองแรกที่ใบใหญ่สุด ของพระนางกัทรุ จึงทรงมีพระวรกายใหญ่โต กว่านาคทั้งมวล

พญาอนันตนาคราชและพระนางอุษาอนันตวดีเทวีนั้น ทรงเป็นผู้ที่รักในความสงบและการปฏิบัติธรรมเป็นอย่างยิ่ง องค์พญาอนันตนาคราชเองนอกจากจะเป็นแท่นบรรทมแล้ว ยังทรงเป็นพญานาคราชประจำองค์พระนารายณ์อีกด้วย ส่วนพระนางอุษาอนันตวดีเทวี ก็ทรงเป็นนางพญานาคีประจำองค์พระลักษมีผู้เป็นมเหสีของพระนารายณ์เช่นกัน

พญาอนันตนาคราชนั้น ทรงมีพระราชโอรสกับพระนางอุษาอนันตวดีเทวี คือ พญาเพชรภัทรนาคราช ทรงเป็นพระราชโอรสเพียงพระองค์เดียว ที่ทรงพระสิริโฉม และรูปงามเป็นที่เลื่องลือไปทั้งสามโลก มีพระวรกายสีทองตามตระกูลวิรูปักษ์ของทางฝ่ายพระมารดา และทรงมีอิทธิฤทธิ์มากมาย ไม่ต่างจากพระบิดาเลยก็ว่าได้ ซึ่งพระโอรสพระองค์นี้ ถือกำเนิดแบบโอปปาติกะ จากเพชรนพรัตน์ที่สร้อยพระศอประจำองค์พระนารายณ์จึงทำให้มีบุญญาบารมี และมีฤทธิ์มากกว่าพญานาคทั่วไป

พญาอนันตนาคราชนั้น ทรงเป็นพญานาคผู้เลื่องชื่อในเรื่องของฤทธิ์เดช อำนาจ และบารมี โดยเฉพาะตามคติของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู พระองค์ถือเป็นที่สุดในหมู่พญานาคทั้งปวง เป็นที่เคารพสักการะของผู้ที่นับถือ จะสังเกตได้จาก จะมีการนำพระนามของพระองค์มาตั้งเป็นชื่อพาหนะ และที่ประทับของพระมหากษัตริย์ ตามคติความเชื่อที่ว่า กษัตริย์คือองค์นารายณ์อวตารลงมาอุบัติบนโลกมนุษย์ เช่น พระที่นั่งอนันตสมาคม เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช เป็นต้น จึงเป็นที่ประจักษ์ได้ว่า พระองค์คือพญานาคาราช ผู้ยิ่งใหญ่ และทรงพลังอำนาจ บารมี และเป็นที่ยอมรับมากที่สุด ดั่งพระนามอันยิ่งเลื่องชื่อของพระองค์ “อนันตนาคราช” นั่นเอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad

Responsive Ads Here