วาสุกรีนาคราชผู้ยิ่งใหญ่ ราชาแห่งงูและบริวารแห่งพระศิวะเจ้า - Nagahora

Post Top Ad

Responsive Ads Here

วันศุกร์ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2561

วาสุกรีนาคราชผู้ยิ่งใหญ่ ราชาแห่งงูและบริวารแห่งพระศิวะเจ้า

ตามความเชื่อของศาสนาฮินดูแล้ว พญานาคผู้ยิ่งใหญ่ที่สุด คงหนีไม่พ้นพญาอนันตนาคราช ผู้เป็นเทพบัลลังก์ของพระวิษณุนารายณ์ ทั้งยังเป็นจอมแห่งนาคทั้งปวงอีกด้วย แต่ในความเป็นจริงแล้ว ยังมีพญานาคอีกตนหนึ่ง ที่ยิ่งใหญ่และมีชื่อเสียงเลื่องลือไม่น้อยไปกว่ากันเลยทีเดียว พญานาคตนนี้นับว่าเป็นเจ้าแห่งงูและอสรพิษทั้งหลาย ผู้เป็นใหญ่ที่สุดในโลกแห่งบาดาล นั่นคือ “พญาวาสุกรีนาคราช” นั่นเอง

พญาวาสุกรีนาคราช เป็นหนึ่งในบุตรของพระมหากัสยปเทพบิดรและนางกัทรุ ผู้เป็นมารดาแห่งนาคทั้งปวง บางตำราระบุว่า เป็นองค์เดียวกับพญาอนันตนาคราช แต่ในคัมภีร์ของศาสนาฮินดูส่วนใหญ่ล้วนระบุว่า เป็นคนละองค์กัน

โดยพญาอนันตนาคราชนั้นทรงเป็นบุตรคนโต ผู้อุทิศตนคอยรับใช้พระวิษณุ โดยเป็นพระแท่นบรรทมของพระองค์ เมื่อทรงบำเพ็ญโยคนิทรา ส่วนพญาวาสุกรีนาคราชนั้น ทรงเป็นราชบุตรคนรอง เป็นพญานาคคู่บารมีขององค์พระศิวะ โดยทรงใช้พญาวาสุกรีนาคราชเป็นสังวาลในการห้อยพระศอ หรือที่คุ้นตาในรูปของงูที่พันรอบคอของพระองค์นั่นเอง

ในคัมภีร์ปุราณะของอินเดียดูระบุว่า พญาวาสุกรีนาคราชนั้น ทรงถือกำเนิดแบบอัณฑชะ จากฟองไข่ 1 ในจำนวน1000 ฟองของพระนางกัทรุ ทรงมีพระวรกายสีเขียวมรกตจงกลณี ซึ่งมีความงดงามมาก และยังเป็นพญานาคตระกูลสูง สามารถแผลงเศียรได้ 7 เศียร เป็นนาคที่มีพิษร้ายแรงที่สามารถทำลายล้างได้ทุกสิ่ง และยังเป็นกษัตริย์แห่งนาคที่ปกครองโลกบาดาล อันมีเมืองหลวงที่งดงามชื่อว่า “นครโภควดี” นั่นเอง

พญานาคว่าสุกรีนั้นถือเป็นพระศิวะสาวก โดยครั้งหนึ่งพระศิวะเกิดเบื่อหน่าย 3 โลก และปลีกพระองค์ไปอยู่อย่างโดดเดี่ยว ก็มีพญานาควาสุกรีนี่เอง ที่คอยอุทิศตนรับใช้ใกล้ชิดอยู่ตลอดเวลา

เมื่อพระศิวะปลีกพระองค์ไปอยู่อย่างโดดเดี่ยว จึงทำให้ทั้ง 3 โลกเกิดความแปรปรวนและขาดภาวะสมดุล เนื่องจากตามคติของศาสนาพราหมณ์-ฮินดูแล้วเชื่อว่า พระพรหมคือผู้สร้างโลก พระนารายณ์คือผู้ปกปักรักษา ส่วนพระศิวะคือผู้ทำลาย ซึ่งมหาเทพทั้งสามนี่เอง ที่เป็นสิ่งที่ทำให้จักรวาลเกิดภาวะสมดุล หากมีเทพองค์ใดองค์หนึ่งไม่กระทำหน้าที่ โลกก็จะเกิดความวุ่นวาย สิ่งมีชีวิตต่างๆก็เกิดความเดือดร้อนนั่นเอง

นอกจากนั้นยังมี พระแม่ตรีศักติ หรือพระแม่สามภพ ซึ่งเกิดจากการรวมตัวของมหาเทวีสตรีทั้ง 3 พระองค์ อันได้แก่ พระปารวตี (มเหสีแห่งพระศิวะ) พระลักษมี (มเหสีแห่งพระวิษณุนารายณ์) และ พระสุรัสวดี (มเหสีแห่งพระพรหม) เมื่อพระเทวีทั้งสามรวมกันเป็นหนึ่งเดียวกัน จะปรากฏรูปเป็น พระตรีศักติเทวี พระมารดาแห่งจักรวาล ถือเป็นเทวีแห่งการทำลายความชั่วร้ายทั้งหลายนั่นเอง เมื่อมีพระพรหม พระนารายณ์ พระศิวะ และพระตรีศักติมาพบกัน โลกและจักรวาลก็จะเกิดความสมดุลและสงบสุขอยู่ได้

เมื่อพระศิวะปลีกพระองค์ไปอยู่อย่างโดดเดี่ยว ไม่ยอมออกมาพบกับเทพทั้งหลาย ทำให้จักรวาลขาดความสมดุล บรรดางูและนาคที่อาศัยอยู่นครบาดาล จึงขัดคำสั่งพระพรหมเทพ ต่างก็ขึ้นมาบนโลกมนุษย์ ทำให้เกิดความวุ่นวายเป็นอันมาก พระวิษณุจึงสั่งให้พญาครุฑลงไปกำราบเหล่างูและนาค ด้วยความที่ครุฑกับนาคต่างก็มีความแค้นต่อกันอยู่ก่อนแล้ว ทำให้ครุฑนั้นฆ่าพวกงูและนาคมากมายนับไม่ถ้วน

ร้อนถึงพญาวาสุกรีนาคราช ผู้เป็นเจ้าแห่งนครบาดาล ต้องออกมาต่อสู้กับพญาครุฑ ด้วยความที่ครุฑได้รับพรจากพระนารายณ์ให้มีชีวิตเป็นอมตะ ทำให้พญาวาสุกรีไม่สามารถสู้กับครุฑได้ และถูกครุฑทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส เมื่อพระศิวะทรงทราบดังนั้น ทำให้ทรงพิโรธเป็นอันมาก จึงเสด็จออกมาจากตบะ เพื่อมาช่วยบริวารของตน

ทางด้านพญาครุฑไม่สามารถต่อสู้กับพระศิวะได้ พระวิษณุจึงเสด็จออกมาเพื่อปกป้องบริวารของตนเช่นเดียวกัน เมื่อพระศิวะต่อสู้กับพระวิษณุนารายณ์ ต่างก็ไม่มีใครแพ้ชนะ เพราะต่างก็เป็นเทพที่มีพลังอำนาจมากมายเช่นเดียวกัน และการต่อสู้ของทั้งสองพระองค์นี่เอง ที่ทำให้จักรวาลกลับมาเกิดความสมดุลอีกครั้ง

เมื่อพระศิวะทรงทราบความจริงดังนั้น พระองค์จึงเกิดความเลื่อมใสในคุณความดีของพญานาควาสุกรีเป็นอันมาก ที่ได้อุทิศตนเป็นผู้เสียสละต่อพระองค์และจักรวาล นับจากนั้นพระองค์จึงให้พรกับพญานาควาสุกรี ให้เป็นนาคคู่บารมี และให้เป็นงูพันรอบพระศอของพระองค์นับจากนั้นเป็นต้นมา ด้วยคุณความดีนี้เอง ที่ทำให้พญานาควาสุกรีเป็นที่ยกย่องและปรากฏในคัมภีร์ต่างๆของศาสนาพราหมณ์ฮินดูเรื่อยมา

พญาวาสุกรีนาคราช เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายเป็นอันมากในตำนานกวนเกษียรสมุทร ของมหากาพย์มหาภารตะของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู เนื่องจากพญาวาสุกรีได้ทรงมีบทบาทสำคัญเป็นอย่างยิ่งในพิธีนี้ กล่าวคือ…

ในครั้งหนึ่งเทวดาอ่อนแอและมีทีท่าว่าจะเพลี่ยงพล้ำให้กับฝ่ายอสูร พระอินทร์จึงได้ไปขอความช่วยเหลือจากพระวิษณุ ซึ่งพระวิษณุได้แนะนำให้ไปทำพิธีกวนเกษียรสมุทรในทะเลน้ำนม เพื่อให้ได้น้ำอมฤตมาให้เหล่าเทวดาดื่ม จะได้มีพลังและเป็นอมตะ แต่การกวนเกษียรสมุทรเป็นเรื่องที่ยากมาก และเหล่าเทพไม่มีกำลังพอที่จะกระทำได้ฝ่ายเดียว จึงออกอุบายไปชวนเหล่าอสูรมาร่วมพิธีด้วย โดยสัญญาจะแบ่งน้ำอมฤตให้ แต่เหล่าเทวดาได้วางแผนที่จะหักหลังเหล่าอสูรในภายหลัง

เมื่อเริ่มพิธีกวนเกษียรสมุทร พระวิษณุได้เสด็จมาเป็นองค์ประธาน เหล่าอสูรได้ถอนภูเขามันทรคีรีมาเพื่อใช้เป็นไม้กวน และอัญเชิญพญาวาสุกรีนาคราชนี่เองมาพันรอบภูเขา เพื่อจะใช้ลำตัวเป็นเชือกในการชักเพื่อกวนเกษียรสมุทรในครั้งนี้

เหล่าเทวดาได้ให้อสูรมาทำการชักอยู่ทางส่วนเศียรของพญาวาสุกรี โดยตนเองทำการชักทางส่วนหาง เพราะรู้ว่าเมื่อทำการชักนาคเมื่อไร พญานาคจะต้องเจ็บปวดและพ่นพิษอันร้ายแรงออกมาอย่างแน่นอน ทั้งเทวดาและอสูรต่างก็ช่วยกันดึงเขามันทรคีรีเพื่อกวนทะเลน้ำนมอย่างเต็มกำลัง

ในระหว่างที่พิธีกวนเกษียรสมุทรได้ดำเนินไปอย่างยาวนาน ภูเขามันทรคีรีก็เริ่มสั่นคลอนจากการที่ถูกแรงดึงเสียดสีมานาน พระวิษณุจึงรีบอวตารไปเป็น “เต่า กูรมาวตาร” เพื่อหนุนก้นภูเขาให้ตั้งตรงดังเดิม ส่วนพญาวาสุกรีก็เหนื่อยล้าและเจ็บปวดจากการที่ร่างกายเสียดสีกับภูเขา จึงได้อ้าปากคายพิษเป็นไฟกรดออกมา ส่งผลให้เหล่าอสูรโดนพิษของพญานาคบ่อยครั้ง จนหน้าตาตะปุ่มตะป่ำและผิวไหม้เกรียมในที่สุด

พิธีกวนเกษียรสมุทรดำเนินไปเรื่อยๆ จนทำให้พญาวาสุกรีเกิดอาการเจ็บปวดจนแทบทนไม่ไหว จึงได้คายพิษอันรุนแรงออกมาอย่างมากมาย ซึ่งพิษนี้หากตกถึงที่ใด ก็จะสร้างความเดือดร้อนอันตรายให้กับทั้งสามโลกได้ เมื่อเป็นดังนั้นพระศิวะจึงทรงรีบมาอ้าพระโอษฐ์เพื่อดูดกลืนพิษร้ายเข้าไปไว้ในพระศอแต่เพียงผู้เดียว เนื่องจากพิษอันร้ายแรงของพญาวาสุกรีนาคราชนี่เอง ทำให้พระศอของพระองค์ไหม้เกรียมจนเป็นสีดำนับจากนั้นเป็นต้นมา

โดยพิธีกวนเกษียรสมุทรในครั้งนั้น ก่อให้เกิดของวิเศษมากมายหลายอย่าง รวมถึงน้ำอมฤตที่หากผู้ใดได้ดื่มกิน ก็จะทำให้มีพละกำลังมากมายมหาศาล รวมถึงมีชีวิตเป็นอมตะนั่นเอง จากตำนานนี้ทำให้พญาวาสุกรีนาคราชเป็นที่เคารพบูชาของผู้ที่นับถือศาสนาพราหมณ์-ฮินดูนับจากนั้นเป็นต้นมา

พญาวาสุกรีนาคราชนี้ นับว่าเป็นพญานาคคู่บารมีขององค์พระศิวะอย่างแท้จริง เพราะนอกจากจะเป็นผู้คอยรับใช้ใกล้ชิดองค์พระศิวะมาโดยตลอดแล้ว พญาวาสุกรียังเป็นบริวารที่องค์พระศิวะทรงไว้วางใจ และผูกพันมากที่สุดเลยก็ว่าได้ และที่สำคัญหากมีพระศิวะปรากฏพระองค์ที่ใด ก็ต้องเห็นพญาวาสุกรีนาคราชพันอยู่ที่พระศอของพระศิวะทุกครั้งไป

บทความโดย : เพจตำนาน ความเชื่อ ลี้ลับ พญานาค

ห้ามคัดลอกไปใช้ก่อนไ้ด้รับอนุญาต

1 ความคิดเห็น:

  1. ส่วนตัวคิดว่าน่าจะองค์เดียวกันค่ะ สงสัยยุว่าพยานาคอนันเป็นที่บรรทมพระวิษณุ พยาสุกรียุบนพระศอพระศิวะ งงยุนะว่าทำไมยุคนละที่ แต่ที่คิดว่านาคองค์เดียวกันเพราะฝันว่าเศียรของพระศิวะมีพยางูคลเองพระศอหัวงูยุด้านซ้ายพระองค์แต่ร่างเป็นของเรา เรามองดูละตกใจจะวิ่งหนี มีเสียงผู้ชายพูดในนิมิตว่าจำเราไม่ได้รึ เราหันมาตอบละถามว่าท่านเป็นใคร เสียงนั้นตอบกลับว่าเราอนันตนาคราชไง เลยตื่นแบบงงและตกใจค่ะ
    ผิดถูกไม่รู้ละฝันอีกครั้งมีคนเรียกชื่อเราว่ามนสาเลยเข้าเน็ทดูว่ามีชื่อนี้ในสายพยานาคปะ ปรากฏว่ามีเป็นน้องสาวพยาสุกรีที่เกิดจากเทพะระศิวะ ชื่อมนสาเทวี แค่แสดงความคิดตามฝันค่ะ แต่มีร่างทรงทักว่ามีแม่พยานาค5 เศียรมายุด้วยให้รับค่ะ

    ตอบลบ

Post Bottom Ad

Responsive Ads Here