ปาฏิหาริย์ และความเชื่อเรื่องความลี้ลับของพญานาคนั้น เป็นที่เลื่องลือและอยู่ในความสนใจของผู้คนอย่างมากมายในปีนี้ ดังที่หมอดูชื่อดังท่านหนึ่ง คือ อาจารย์ลักษณ์ เรขานิเทศ ได้เคยกล่าวไว้ว่า ในปี พ.ศ. 2560-2565 นั้น เป็นปีแห่งพญานาคราชประทานพร เพื่อให้ผู้คนร่มเย็นเป็นสุข มั่งมีเงินทอง มีอำนาจวาสนานั่นเอง ในช่วงเวลาดังกล่าวนั้น เชื่อว่า หากผู้ใดได้มีโอกาสสร้างกุศลสัมพันธ์กับพญานาคราช จะเป็นบุญครั้งยิ่งใหญ่ ทำให้โชคดี และมีแต่สิ่งดีๆเกิดขึ้นในชีวิต ดังนั้นผู้คนมากมายจึงแห่แหนกันไปทำบุญและสักการะพญานาค ที่ดินแดนแห่งพญานาคในที่ต่างๆกันอย่างล้นหลามเลยทีเดียว นประเทศไทยของเรามีสถานที่ต่างๆมากมาย ที่เชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งพญานาค บางสถานที่เป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่ ที่เชื่อว่าเกิดจากการถล่มของพญานาค บางสถานที่เป็นถ้ำที่เชื่อว่าเป็นที่อยู่ของพญานาค และยังมีอีกสถานที่หนึ่ง ที่ผู้คนเชื่อว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ที่สามารถติดต่อระหว่างเมืองมนุษย์กับนครบาดาลแห่งพญานาคได้ นั่นก็คือ “ถ้ำมืด” หรือ “ถ้ำปาฏิหาริย์” นั่นเอง
“ถ้ำมืด” หรือ “ถ้ำปาฏิหาริย์” ตั้งอยู่ ณ วัดถ้ำปาฏิหาริย์ อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี เป็นอีกสถานที่หนึ่ง ที่มีตำนานเกี่ยวพันกับพญานาค โดยมีตำนานเล่าขานกันมาตั้งแต่สมัยโบราณว่า ที่แห่งนี้คือเมืองลับแล หรือเมืองบังบด ซึ่งตามประวัติของหลวงปู่คำคะนิง จุลมณี ณ วัดถ้ำคูหาสวรรค์ ได้กล่าวไว้ว่า ถ้ำแห่งนี้เป็นทางเชื่อมต่อระหว่างเมืองมนุษย์กับเมืองบาดาล และถือเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ที่มีเจ้าปู่เป็นผู้ดูแลปกปักรักษา และยังเชื่ออีกว่าหากเดินไปจนสุดถ้ำ จะสามารถเดินทะลุไปอีกฝั่งของแม่น้ำโขงของประเทศลาวได้ โดยบรรยากาศภายในถ้ำนั้นจะมีความเงียบสงบมาก จะมีบันไดนาคทอดยาวลงไปในถ้ำ อากาศภายในจะเย็นสบาย หากเป็นหน้าฝน จะมีหยดน้ำไหลลงมาจากผนังถ้ำตลอดเวลา เมื่อเดินพ้นบันไดนาคแล้ว ต่อไปเราจะพบกับห้องโถงขนาดใหญ่ ซึ่งภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปางต่างๆ ที่รังสรรค์อย่างวิจิตรงดงาม ไว้จำนวนมาก
มีเรื่องราวเล่าอีกว่า ในสมัยก่อนนั้นภายในถ้ำจะมีท่อนไม้ใหญ่ ขนาด 3 คนโอบ อยู่ในถ้ำแห่งนี้ แต่ต่อมาเมื่อมีผู้คนค้นพบถ้ำนี้ และถ้ำเป็นที่รู้จักมากขึ้น จู่ๆท่อนไม้นั้นก็หายไปอย่างเป็นปริศนา และไม่มีใครพบเห็นอีกเลย จากคำบอกเล่าของหลวงปู่คำคะนิง ท่านได้เล่าเกี่ยวกับตำนานของถ้ำแห่งนี้ไว้อีก คือ ในตอนแรกนั้นหลวงปู่ท่านได้ยินคำร่ำลือจากชาวบ้านและพระธุดงค์ว่า ถ้ำแห่งนี้เป็นถ้ำเมืองลับแล หรือถ้ำของชาวบังบด และถ้ำศักดิ์สิทธิ์ มีเหล็กไหล ซึ่งชาวเมืองลับแลหวงแหนเป็นอย่างมาก แต่วันดีคืนดี หากมีผู้หลงเข้าไปในเมืองลับแลแห่งนี้ หากเป็นคนดี มีศีลธรรม ก็จะได้รับแก้วแหวนเงินทองจากชาวลับแล หรือไม่ก็ได้พระทองคำมาบูชาเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต หากผู้ใดเป็นคนไม่ดี ใจบาปหยาบช้า ก็อาจจะไม่สามารถกลับออกมาได้เลยทีเดียว ลึกลงไปในถ้ำมืดแห่งนี้ เป็นนครเร้นลับใต้พิภพ เรียกว่า “เมืองบาดาลดินแดนแห่งพญานาค” ซึ่งอยู่ใต้แม่น้ำโขง นครบาดาลนี้เป็นเมืองใหญ่โตมโหฬาร สวยงามตระกาลตามาก ถ้าหากเข้าไปในถ้ำจากฝั่งไทย จะลอดไปใต้แม่น้ำโขง ระหว่างทางเดินจะเป็นอุโมงค์กว้างใหญ่สลับซับซ้อน วกวนคล้ายรวงผึ้ง เมื่อเดินไปเรื่อยๆจะสามารถทะลุไปขึ้นฝั่งโขงทางด้านประเทศลาวได้
อุโมงค์บางสายของเมืองบาดาลนี้ ทะลุไปออกที่แก่งลี้ผีสีทันดร ระยะทางนับกว่าร้อยกิโลเมตร อุโมงค์บางสายทะลุออกไปที่เมืองแกวเมืองญวณ ซึ่งพระธุดงค์หลายรูป ได้นั่งทางในตรวจสอบด้วยกระแสญาณแล้ว เห็นตรงกันว่าเป็นความจริง ในอดีตได้เคยมีชาวบ้านบางกลุ่มที่ต้องการแสวงหาทรัพย์สมบัติ ได้เข้าไปค้นหาสมบัติภายในถ้ำ ปรากฏว่าพอเข้าไปแล้ว พบแต่ถ้ำที่เป็นอุโมงค์ขนาดใหญ่ มีลักษณะเป็นถ้ำตัน ไม่สลับซับซ้อน ไม่มีเมืองพญานาค ไม่มีเหล็กไหล ไม่มีทรัพย์สมบัติโบราณ ดังที่ร่ำลือมาแต่อย่างใด หลวงปู่คำคะนิง ท่านยังได้กล่าวอีกว่า ที่ร่ำลือกันว่า ถ้ำนี้เป็นเมืองลับแล มีอุโมงค์ลงไปใต้เมืองบาดาล จะพบกับดินแดนพญานาคนั้น บุคคลธรรมดาทั่วไปไม่สามารถมองเห็นได้ เพราะทุกอย่างที่ได้กล่าวมานั้น อยู่ในสภาวะทิพย์ มีความละเอียดอ่อนสุขุมยิ่งกว่าสายลม เบาบางยิ่งกว่าไยแมงมุม แต่ทว่าแข็งกล้ายิ่งกว่าเหล็กเพชร มีอานุภาพยิ่งกว่าสายฟ้า สามารถให้คุณและให้โทษแก่มนุษย์ ผู้มีจิตใจบาปหยาบช้า ผู้ที่มีความโลภโมโทสัน ให้พบกับความวิบัติได้ในพริบตา และผู้ที่จะมองเห็นสภาวะทิพย์นี้ได้ย่อมต้องเป็นผู้ที่มีบุญและมีญาณแก่กล้าเท่านั้น
“ถ้ำมืด” หรือ “ถ้ำปาฏิหาริย์” แห่งนี้ หากท่านใดได้เข้าไปแล้ว จะต้องตื่นตะลึงในความสวยงาม อลังการ และน่าทึ่งของตัวถ้ำอย่างแน่นอน ถือเป็นถ้ำศักดิ์สิทธิ์ ที่ชาวอำเภอโขงเจียมให้ความเคารพบูชาเป็นอย่างยิ่ง หากท่านผู้ชมผู้ฟังท่านใด ต้องการไปสักการะ หรือไปสัมผัสกับดินแดนแห่งพญานาค เพื่อความเป็นสิริมงคลแล้วนั้น ถ้ำมืด ก็เป็นอีกสถานที่หนึ่ง ที่ท่านต้องไปสัมผัสให้ได้สักครั้งในชีวิตนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น