อานุภาพแห่ง..มณีนาคราช!! - Nagahora

Post Top Ad

Responsive Ads Here

วันอาทิตย์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

อานุภาพแห่ง..มณีนาคราช!!

มณีนาคราช หรือ “ลูกแก้วพญานาค” หรือบางตำราที่เรียกว่า “แก้วจันทรกาล” เป็นดวงแก้วประจำกายของพญานาค สามารถเกิดขึ้นด้วยบุญฤทธิ์ของพญานาคตนนั้นๆ

การปรากฏของดวงแก้วประจำกาย มิได้เกิดขึ้นมาพร้อมการจุติแบบโอปปาติกะของพญานาค แต่จะบังเกิดขึ้นเมื่อพญานาคอยู่ในวัยอันสมควร ซึ่งเมื่อถึงเวลาที่พญานาคนั้นเติบโตเต็มที่ ก็จะต้องไปจำศีลเข้าฌาณสมาบัติ เพื่อชำระกายใจให้บริสุทธิ์ เตรียมรองรับการปรากฏของดวงแก้วมณีประจำกายแห่งตน

เมื่อพญานาคบำเพ็ญเพียร ทำจิตใจให้บริสุทธิ์แล้ว เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ในคืนวันเพ็ญขึ้น ๑๕ ค่ำ ผลของบุญกุศลที่เคยสั่งสมมาตั้งแต่ในอดีตจะรวมตัวกัน ดลบันดาลให้ดวงแก้วมณีของพญานาค บังเกิดขึ้น ดวงแก้วมณีจะเปล่งประกายรัศมีสว่างไสวทั่วทั้งภพบาดาล และบันดาลให้เกิดทิพยสมบัติต่าง ๆ ขึ้นตามกำลังบุญของพญานาคแต่ละตน หากพญานาคตนนั้นผู้มีบุญญาธิการมาเกิด จะเกิดอานุภาพและทิพยสมบัติมากมาย และหากพญานาคที่มาจุติใหม่ มีบุญญาธิการ บารมีมากกว่าพญานาคผู้เป็นเจ้าครองนครตนเดิม พญานาคตนเดิมก็จะต้องสละสมบัติให้กับท่านผู้ที่มีบุญญาธิการมากกว่า เพื่อครองนครบาดาลแห่งนั้นสืบต่อไป การปกครองในภพบาดาลนั้นถือหลักบุญญาธิปไตย คือผู้มีบุญญาธิการมากกว่าปกครองผู้ที่มีบุญน้อยกว่านั่นเอง

สำหรับอานุภาพของแก้วมณีนาคราชนั้นมีมากมายนัก ไม่ว่าจะเป็น ด้านอิทธิฤทธิ์ ปาฏิหาริย์ สามารถบันดาลข้าวปลาอาหารทิพย์ ทิพยวิมาน และทิพยสมบัติอื่น ๆ เช่นแก้ว แหวน เงิน ทองต่าง ๆ ตามกำลังบุญที่พญานาคสั่งสมมา ดังนั้นดวงแก้วมณีนาคราชนี้ จึงเป็นของที่รักและหวงแหนของพญานาคมากเลยทีเดียว

นอกจากนี้ แก้วมณีนาคราชยังมีความสำคัญอีกประการหนึ่งคือ ใช้ในการจำศีลภาวนาของพญานาคนั่นเอง ในทุกๆปี พญานาคที่นับถือพระพุทธศาสนาจะตั้งใจจำศีลในช่วงเวลาเข้าพรรษา จำเป็นต้องมีแก้วมณีนาคราชสำหรับบันดาลอาหารทิพย์ และป้องกันภัยในระหว่างจำศีลในแต่ละครั้งด้วย หากปราศจากดวงแก้วมณี พญานาคตนนั้นไม่สามารถจำศีลได้ และอิทธิฤทธิ์ของพญานาคก็จะลดลงไปด้วยเช่นกัน

การจำศีลของพญานาคนั้น คล้ายการถืออุโบสถศีลของมนุษย์ เป็นการเข้าฌานสมาบัติ งดเว้นการเสพกาม การเสวยทิพยสมบัติ ๆ อื่นๆ รวมถึงงดเว้นการใช้อิทธิฤทธิ์ในด้านต่างๆด้วย เป็นการรักษาใจให้บริสุทธิ์ ทำใจน้อมระลึกถึงพุทธานุสติเพียงอย่างเดียว พญานาคที่เคยเกิดทันในสมัยพุทธกาลในวันที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากลับมาจากการโปรดพระพุทธมารดาในวันออกพรรษา และเสด็จลงมาจากดาวดึงส์ และได้เห็นพุทธานุภาพนั้น ก็จะมีการถ่ายทอดเรื่องราวให้แก่พญานาครุ่นหลัง ให้ทำใจน้อมระลึกถึงคุณขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ ระยะเวลาการถือศีลนั้น พญานาคจะนับตามวันเดือนเกิดและเดือนดับ ตามจันทรคติของสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา

แก้วมณีนาคราชนั้น สามารถเดินทางไปในที่ที่อยากไป และไปสถิตย์อยู่กับผู้ที่มีความเหมาะสม ซึ่งในทางพระพุทธศาสนา เรียกว่า “มณีนาคราชเสด็จ” การเสด็จก็คือ การล่องลอยไป หรือการไปปรากฏในที่ต่างๆนั่นเอง

เมื่อมณีนาคราชเสด็จไปอยู่กับผู้ที่เหมาะสม คือ ผู้มีบุญญาบารมี มีจิตใจดี ประพฤติดี มีความศรัทธาในมณีนาคราชแล้ว มณีนาคราชก็จะสามารถปกป้องคุ้มครองผู้ที่เป็นเจ้าของจากภัยต่างๆ และยังสามารถดลบันดาลสิ่งต่างๆให้กับผู้ถือครองได้อีกด้วย

จากคำบอกเล่าของผู้ที่พบเห็นการเสด็จของ “แก้วมณีนาคราช” จะเกิดขึ้นในวันคืนวันเพ็ญขึ้น ๑๕ ค่ำ จะเห็นดวงแก้วมณีผุดมาจากพื้นน้ำ หรือพื้นดิน อยู่ที่ว่าพญานาคตนนั้นมีถิ่นที่อยู่อยู่ที่ใด แล้วพุ่งลอยขึ้นไปเป็นดวงแสงสว่างไสวลอยวนเวียนไปมาแล้วก็หายไปเมื่อไปขุดบริเวณที่หายไปนั้นจะพบแก้วมณีนาคราชดังกล่าว แก้วมณีจะมีขนาดใหญ่เล็ก และจะมีสีแตกต่างกันไปตามบุญบารมีของพญานาคผู้เป็นเจ้าของ ซึ่งมักปรากฏหรือพบมากในช่วงระหว่างเข้าพรรษา และออกพรรษา ช่วงเวลาอื่นจะพบแต่น้อย

ในอดีตมีพระเกจิอาจารย์หลายท่านที่มีแก้วมณีนาคราชดูแลอยู่ ซึ่งมีที่มาแตกต่างกันออกไป เช่น

หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืดวัดช้างให้ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี เมื่อครั้งสมัยที่ท่านยังเยาว์วัยเป็นทารก ขณะที่นอนหลับอยู่ในเปล มีงูตระบองสลาตัวใหญ่มาขดพันอยู่รอบเปล และไม่ยอมให้ใครมาใกล้เปล จนกระทั่งมารดาของท่านหาข้าวตอกดอกไม้และธูปเทียนมาสักการบูชา พญางูจึงคลายลำตัวออกจากเปลและเลื้อยหายไป ต่อมาเมื่อพญางูจากไปแล้วบิดามารดาทั้งญาติต่างพากันมาที่เปลด้วยความห่วงใยทารก ก็ปรากฏว่าเด็กชายปูยังคงนอนหลับอยู่เป็นปกติแต่เหนือทรวงอกของทารกกลับมีดวงแก้วดวงหนึ่งมีแสงรุ่งเรืองเป็นรัศมีหลากสี บิดามารดาของท่านจึงเก็บรักษาไว้จนกระทั่งท่านโตขึ้น ได้อุปสมบทบวชเรียนเป็นพระภิกษุ และมีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่เคารพบูชาแก่พุทธศาสนิกชนทั่วไป

หลวงปู่คำคะนิง จุลมณี วัดถ้ำคูหาสวรรค์ อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี ท่านมีแก้วมณีนาคราชสีเขียวขนาดใหญ่ และประดิษฐานไว้ให้พุทธศาสนิกชนได้กราบไว้บูชาจนถึงปัจจุบันนี้

พระอาจารย์บรรลังก์ เจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทยโสธร จ.ยโสธร เป็นศิษย์เจ้าคุณโฮม อดีตเจ้าอาวาสวัดปทุมวนารามกรุงเทพฯ สายพระกรรมฐานหลวงปู่มั่นภูริทัตโต ได้มีลูกแก้วเสด็จมาปรากฏไว้ให้ท่านพระอาจารย์ดูแลเป็นจำนวนหนึ่ง

สำหรับผู้ที่มีแก้วมณีนาคราชไว้ดูแลนั้น ในการบวงสรวงที่พญานาคโปรดปรานที่สุด คือ การรักษาศีลให้บริสุทธิ์ หมั่นสวดมนต์เจริญพระกรรมฐาน และแผ่เมตตาอุทิศให้แก่พญานาคผู้เป็นเจ้าของอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ยังเป็นการสั่งสมบุญบารมีของตนให้เจริญรุ่งเรืองยิ่งๆ ขึ้นไปทั้งทางโลกและทางธรรมอีกด้วย

การที่จะอธิษฐานขอสิ่งใดจากแก้วมณีนาคราชนั้น ผู้ดูแลแก้วมณีนาคราชต้องรักษาศีลให้บริสุทธิ์ หมั่นสวดมนต์นั่งสมาธิสม่ำเสมอ ซึ่งการอธิษฐานขอได้เพียงครั้งละ ๑ อย่าง หมายถึง ถ้าอธิษฐานครั้งแรกแล้ว สิ่งนั้นสำเร็จ จึงจะอธิษฐานขอสิ่งต่อไปได้ ถ้าไม่เกินกฎแห่งกรรม ท่านจะดลบันดาลให้สมความปรารถนาในสิ่งที่ต้องการ

มีบางท่านที่มีจิตใจเป็นกุศล ชอบทำบุญทำทาน รักษาศีล และเจริญพระกรรมฐานอย่างสม่ำเสมอ เมื่อได้แก้วมณีนาคราชมา บุญกุศลที่เต็มเปี่ยมแล้วพร้อมจะส่งผลให้พบกับโชคลาภ หรือได้ทรัพย์มาแบบแปลก ๆ บังเกิดขึ้นโดยที่ไม่ต้องอธิษฐานขอแต่อย่างใด ทุกอย่างเกิดขึ้นด้วยบุญฤทธิ์อย่างแท้จริง ซึ่งจะบังเกิดขึ้นมาตามมากำลังบุญของแต่ละบุคคลนั่นเอง

ความเชื่อเรื่องพญานาค หรือมณีนาคราชนั้น ครูบาอาจารย์ท่านได้กล่าวไว้ว่า หากเราเชื่อว่าพระพุทธเจ้ามีจริง พญานาคก็ย่อมมีจริงเช่นกัน เนื่องจากว่า ในพระไตรปิฎกนั้น ระบุชัดเจนว่าพระพุทธเจ้าทรงเคยประสบกับพญานาค ทั้งยังเคยเสวยชาติเป็นพญานาคอีกด้วย ซึ่งสิ่งลี้ลับน่าค้นหา ที่ได้กล่าวมานี้ ถึงแม้ว่าเราจะไม่เคยพบเห็น แต่สิ่งที่ไม่เคยเห็นนั้น ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีอยู่จริง

บทความโดย : เพจ ตำนาน ความเชื่อ ลี้ลับ พญานาค https://www.facebook.com/NagaHistory/

ห้ามคัดลอกไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad

Responsive Ads Here