ตะลึง!! นักประดาน้ำดำดิ่งสู่ใต้คำชะโนด บุกพิสูจน์สาเหตุที่เกาะลอยน้ำได้ - Nagahora

Post Top Ad

Responsive Ads Here

วันเสาร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

ตะลึง!! นักประดาน้ำดำดิ่งสู่ใต้คำชะโนด บุกพิสูจน์สาเหตุที่เกาะลอยน้ำได้

“คำชะโนด” เกาะมหัศจรรย์ อันเลื่องชื่อ และน่าพิศวงในสายตาของผู้คนทั้งหลาย เชื่อว่าเป็นเกาะลึกลับ ที่มีพญานาคคอยคุ้มครองอยู่ เป็น 1 ใน 3 ของช่องทางขึ้นลงของพญานาค จากนาครบาดาลมาสู่โลกมนุษย์

เกาะคำชะโนดนั้น เชื่อว่ามีอายุมากกว่า 2 พันปีมาแล้ว ตั้งอยู่บนพื้นที่ 3 ตำบล คือ ตำบลวังทอง ตำบลบ้านม่วง และตำบลบ้านจันทร์ ในอำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี กินพื้นที่มากกว่า 20 ไร่ มีลักษณะเป็นเกาะที่ล้อมรอบไปด้วยน้ำ ภายในเกาะมีต้นชะโนด ต้นไม้ประหลาดขึ้นอยู่เต็มไปหมด

ในอดีต คำชะโนดนั้นเป็นเกาะที่ไม่มีสิ่งปลูกสร้างใดๆ นอกเหนือจากศาลเจ้าปู่ศรีสุทโธ ซึ่งทำไว้เป็นศาลเล็กๆให้ชาวบ้านกราบไหว้ เกาะคำชะโนดนั้น เชื่อว่าเป็นเกาะที่ไม่มีวันจมน้ำ หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “เกาะลอยน้ำ” นั่นเอง

ในอดีต บริเวณอำเภอบ้านดุง เคยประสบปัญหาน้ำท่วมใหญ่หลายครั้ง โดยเฉพาะในปี พ.ศ. 25.. ทุกพื้นที่โดนน้ำท่วมทั้งหมด ยกเว้นคำชะโนด ที่แม้จะเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ แต่ยังสามารถตั้งตระหง่าน ลอยน้ำอยู่ได้อย่างสง่างาม และน่าทึ่งยิ่งนัก

จากสิ่งเหล่านี้ ทำให้นักวิชาการหลายท่านพยายามเข้าไปศึกษาประวัติ และสืบค้นข้อมูลต่างๆ เพื่อไขปริศนาว่า ทำไมเกาะเล็กๆนี้ ถึงสามารถลอยน้ำ และรอดพ้นจากปัญหาอุทกภัยต่างๆได้ทุกครั้งไป

จากการเข้าไปศึกษาของนักวิชาการพบว่า เกาะคำชะโนดเป็นเกาะที่มีลักษณะแปลก คือ มีการลอยอยู่บนผิวน้ำ เมื่อน้ำมีปริมาณมาก สามารถลอยขึ้นสูงได้ และเมื่อน้ำแห้งเกาะก็จะตั้งอยู่บนพื้นดินปกติ พื้นดินภายในเกาะ เกิดจากการทับถมของซากพืชซากสัตว์ที่ทับถมกันมาเป็นระยะเวลาหลายร้อยปี จากเศษผงของซากพืชซากสัตว์ ทับถมกันในแอ่งน้ำ เมื่อระยะเวลาผ่านไป ก็จับตัวกันกลายเป็นดินในที่สุด

พื้นดินของเกาะคำชะโนด มีความหนาอยู่ที่ประมาณ 1-3 เมตร แล้วแต่บริเวณ รากของต้นชะโนด ต้นไม้สัญลักษณ์ประจำเกาะ จะแผ่ออกไปในลักษณะเป็นแนวนอน มีหน้าที่เกาะเกี่ยวกัน อุ้มพื้นดิน และช่วยพยุงให้เกาะแห่งนี้ลอยน้ำได้ ดังนั้นจึงสามารถสันนิษฐานได้ว่า สาเหตุที่เกาะลอยน้ำได้นั้น เนื่องจาก เกาะมีน้ำหนักเบา และไม่ได้ยึดติดกับพื้นดินด้านล่างของแอ่งน้ำนั่นเอง

นอกจากนั้น ข้อมูลเหล่านี้ยังไม่อาจไขข้อสงสัยของบรรดานักวิชาการได้ทั้งหมด เมื่อเป็นดังนั้นแล้ว นักประดาน้ำจากมูลนิธิสว่างเมธาธรรมสถาน จึงได้ขอดำน้ำลงไปบุกพิสูจน์ภายใต้เกาะว่า มีพื้นดินเชื่อมต่อกับพื้นดินใต้ท้องน้ำหรือไม่ ซึ่งในการดำน้ำลงไปสำรวจครั้งนี้นั้น ยังไม่เคยมีใครกล้าทำมาก่อน เพราะชาวบ้านเชื่อว่าบริเวณรอบๆเกาะนั้น จะมีจระเข้คอยดูแลและปกปักรักษาอยู่ แต่ด้วยความต้องการพิสูจน์ข้อสงสัยที่มีมายาวนาน นักประดาน้ำกลุ่มดังกล่าว จึงได้ตัดสินใจดำดิ่งลงไปสู่ดินแดนบาดาลใต้เกาะคำชะโนดทันที ถึงแม้จะมีความรู้สึกหวั่นๆในใจอยู่ก็ตาม

นักประดาน้ำกล่าวว่า เมื่อดำลงไปในน้ำประมาณ 3 เมตร พบว่าน้ำภายใต้เกาะคำชะโนดนั้นใสมาก สามารถมองเห็นสาหร่าย สัตว์น้ำ และรากไม้ได้อย่างชัดเจน เมื่อดำลงไปลึกกว่าเดิมจะพบกับรากไม้มากมาย โยงประสานต่อกันเป็นโพรง มีช่องว่างให้แหวกว่ายทะลุไปได้ ทีมงานพยายามแหวกช่องว่างของรากไม้เข้าไปภายใน เนื่องจากได้ยินคำร่ำลือของชาวบ้านว่า หากสามารถเข้าไปสู่ใจกลางเกาะได้ ก็จะพบกับประตูสู่เมืองบาดาล ทีมนักประดาน้ำจึงพยายามดำลงไปให้ลึกที่สุด เพื่อพิสูจน์คำร่ำลือดังกล่าวว่าจะเป็นจริงหรือไม่

ทีมงานพยายามแหวกโพรงรากไม้ เพื่อดำลึกลงให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ก็ต้องหยุดชะงัก เพราะเมื่อดำลงไปแล้วพบว่ามีรากไม้จำนวนมากเกาะเกี่ยวกันหนาแน่นยากที่จะแหวกลงไปได้ เมื่อนักประดาน้ำเบี่ยงตัวจะดำลงไปอีกด้านหนึ่ง จู่ๆก็พบว่ามีรากไม้มารั้งตัว และพันขาทีมงานไว้ มีความยึดหยุ่นคล้ายๆงูรัด สิ่งที่เกิดขึ้นสร้างความตื่นตระหนกให้กับทีมงานเป็นอันมาก จนทำให้ต้องล่าถอยล้มเลิกความตั้งใจในที่สุด ทิ้งให้โพรงใต้น้ำที่เห็นยังคงเป็นปริศนาต่อไป

จากคำให้สัมภาษณ์ของนักประดาน้ำ หนึ่งในทีมงานทั้งหมด มีใจความว่า “ข้างในเป็นโพรงเข้าไปเหมือนถ้ำลอยได้ ตอนแรกทางเข้าโล่ง แต่พอครั้งที่สองปรากฏว่าถ้ำมันตัน มีรากหญ้ายาวติดกันเป็นผืน เข้าไปไม่ได้เลย ไม่เหมือนรอบแรกที่มีเพียงกิ่งไม้ รากหญ้าบางๆ ผมพยายามเคลียร์ออกแล้ว แต่ก็เข้าไปไม่ได้ เวลาแหวกหญ้าเข้าไป เหมือนกับว่ามีคนมาดึงขาไว้ไม่ให้เข้า นับว่าเป็นการสำรวจที่ท้าทายมาก ในการดำน้ำลงไปใต้เกาะคำชะโนด”

ทุกคนที่ได้ยินคำพูดดังกล่าว ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า สิ่งที่มาดึงขาของนักประดาน้ำไว้ ไม่ให้เข้าไปในโพรงรากไม้ดังกล่าว ต้องเป็นงูหรือพญานาคอย่างแน่นอน สิ่งที่เกิดขึ้น ได้สร้างความงุนงง และสงสัยให้กับทีมงานเป็นอันมาก

ถึงแม้ว่าจะไม่มีผู้ใด สามารถดำลึกลงไปจนถึงก้นบึ้งของแอ่งน้ำภายใต้เกาะ เพื่อพิสูจน์ได้ว่า ภายใต้คำชะโนดนั้นมีถ้ำ หรือประตูสู่นครบาดาลจริงหรือไม่ แต่การลงไปสำรวจครั้งนี้ ก็สามารถเป็นข้อมูลยืนยันได้ว่า เหตุใดเกาะจึงสามารถลอยน้ำได้ นั่นก็เนื่องมาจาก พื้นดินภายในเกาะอาจจะมีน้ำหนักเบา

เนื่องจากดินส่วนใหญ่เกิดจากการทับถมของซากพืชซากสัตว์ และพื้นดินมีความหนาแค่ประมาณ 1-3 เมตรเท่านั้น รวมถึงยังมีรากของต้นชะโนด ที่คอยโอบอุ้มพื้นดินเอาไว้ให้แข็งแรง ทำให้เกาะสามารถลอยขึ้น และลดระดับต่ำลงได้ตามระดับน้ำนั่นเอง ซึ่งความสิ่งนี้ ถือเป็นความมหัศจรรย์ที่ยังไม่เคยพบเห็นจากที่ใดมาก่อน ถือเป็นสิ่งที่น่าทึ่ง และน่าเหลือเชื่อ ที่ธรรมชาติได้สรรสร้าง ให้มนุษย์ได้มีโอกาสชื่นชมกับความงดงามนี้

อีกนัยหนึ่ง ชาวบ้านยังเชื่อว่า เหตุที่เกาะคำชะโนดมีความเร้นลับ และน่าพิศวงนี้ เนื่องมาจาก เกาะแห่งนี้เป็นวังนาคินทร์ของพญานาค ที่คอยปกปักรักษาไม่ให้เกาะจมน้ำ และให้ลอยโดดเด่นเป็นสง่า ถึงแม้ว่าจะมีน้ำท่วมใหญ่ซักกี่ครั้ง แต่ภัยพิบัติเหล่านั้น ก็ไม่เคยทำให้ความงดงามของเกาะคำชะโนดจมลงไปได้เลยแต่อย่างใด

และเป็นที่น่าใจหายยิ่งนัก เมื่อล่าสุด ได้มีเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น เมื่อคำชะโนดที่เคยลอยเด่นอยู่เหนือน้ำมาหลายร้อยปี กลับไม่สามารถทนทานต่อภัยพิบัติของพายุลูกใหญ่ได้อีกต่อไป คำชะโนดเกาะมหัศจรรย์ได้จมน้ำเสียแล้ว เหตุการณ์ดังกล่าว ได้สร้างความเศร้าเสียใจให้กับผู้ที่รักและศรัทธาในเกาะลี้ลับแห่งนี้เป็นอันมาก จนทำให้เกิดข้อสันนิษฐานและข้อวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆนานา ถึงสาเหตุที่ทำให้เกาะไม่สามารถลอยน้ำได้อีกต่อไป

บางคนก็บอกว่าอาจเนื่องมาจาก สภาพเกาะที่เปลี่ยนแปลงไป เนื่องจากในระยะหลังๆนี้ ภายในเกาะมีสิ่งปลูกสร้างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นศาลสำหรับสักการะ ทั้งหมด 3 ศาล ที่ทำจากปูนคอนกรีต บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่มีการเสริมด้วยคอนกรีต และทางเดินรอบเกาะที่ทำจากคอนกรีต ทำให้เกาะมีน้ำหนักมากขึ้น และไม่สามารถลอยอยู่เมื่อถูกน้ำท่วมได้

อีกสาเหตุหนึ่งมีผู้วิเคราะห์ว่า อาจเนื่องมาจากตัวเกาะมีน้ำหนักมากขึ้น และสะพานพญานาคคู่ ที่สร้างเพื่อเป็นทางเดินไปสู่เกาะนั้น มีน้ำหนักมาก เมื่อเกิดน้ำท่วมทำให้พญานาคคู่เป็นตัวรั้งไม่ให้เกาะสามารถลอยขึ้นหนีน้ำได้ น้ำจึงท่วมคำชะโนดในที่สุด

และสาเหตุสุดท้าย ที่ชาวบ้านคาดการณ์และเชื่อมากที่สุดคือ เกิดจากที่มีผู้คนจำนวนมากเดินทางไปที่คำชะโนด ทั้งไปขายสินค้า ขอเลขเด็ด มีการสร้างความเสียหายให้แก่เกาะ ไม่ว่าจะเป็นทาแป้งบริเวณต้นไม้ รากไม้ ผูกผ้าหลากสีที่ต้นชะโนด และทิ้งขยะมูลฝอยไว้ในเกาะเป็นจำนวนมาก จนเกาะแทบไม่เหลือความงดงามและเงียบสงบอีกต่อไป จากในอดีตที่ผู้คนเดินทางไปด้วยใจสงบร่มเย็น และด้วยแรงศรัทธาที่มีต่อปู่ศรีสุทโธและย่าศรีปทุมมา แต่ปัจจุบันผู้คนแห่แหนไปที่คำชะโนดเพราะความอยากได้อยากมี ทำให้พญานาคเกิดความแหนงหน่ายในพฤติกรรมและกิเลสของมนุษย์ เมื่อพญานาคไม่สามารถอยู่อย่างสงบได้ จึงคลายเวทมนต์และปล่อยให้น้ำท่วมเกาะในที่สุด

ถึงแม้ว่าคำชะโนดนั้นจะไม่สามารถลอยน้ำได้อีกต่อไป แต่ความลี้ลับและข้อสงสัยต่างๆ ก็ยังคงไม่มีใครสามารถพิสูจน์ได้ ว่าภายใต้เกาะลี้ลับเล็กๆแห่งนี้ มีประตูสู่เมืองบาดาลจริงหรือไม่ มีถ้ำใต้น้ำอยู่จริงหรือเปล่า รวมถึงภายใต้เกาะนี้ มีสัตว์ชนิดใดที่คอยปกป้องอยู่ ในที่สุดเรื่องราวเหล่านี้ก็ยังคงถูกปล่อยให้เป็นปริศนาเพื่อรอการพิสูจน์ต่อไป

บทความโดย :เพจตำนาน ความเชื่อ ลี้ลับ พญานาค

ห้ามคัดลอกไปใช้ก่อนได้รับอนุญาต

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad

Responsive Ads Here